นโยบายความเป็นส่วนตัว (Personal Data Protection Policy) ของบริษัท สยาม โกลบอล กรุ๊ป จำกัด และกลุ่มบริษัทในเครือ
บริษัท สยาม โกลบอล กรุ๊ป จำกัด และกลุ่มบริษัทในเครือ (ต่อไปนี้จะเรียกรวมว่า “บริษัท”) เคารพสิทธิความเป็นส่วนตัวและให้ความสำคัญต่อการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้องหรือทำธุรกรรมกับบริษัท จึงได้จัดทำนโยบายการคุ้มครองข้อมูล ส่วนบุคคลฉบับนี้ขึ้น เพื่อให้มีหลักเกณฑ์ กลไก มาตรการกำกับดูแล และการบริหารจัดการข้อมูลส่วนบุคคลอย่างชัดเจนและเหมาะสมให้มีความสอดคล้องกับกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง จึงขอแจ้งข้อมูลดังต่อไปนี้ให้ท่านทราบเพื่อเป็นการปฏิบัติตาม พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 โดยมีสาระสำคัญดังต่อไปนี้
1. ขอบเขตการบังคับใช้ นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ มีผลบังคับใช้กับการปฏิบัติงานของพนักงานทุกคน ซึ่งหมายถึงพนักงานประจำ พนักงานสัญญาจ้างงานแบบระบุระยะเวลาสิ้นสุดสัญญา พนักงานชั่วคราว รวมถึงผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลในนามบริษัท ตัวแทน ที่ปรึกษา และผู้รับข้อมูลจากบริษัท
2. คำนิยาม 2.1. “ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ 2.1.1 ข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านให้ไว้แก่บริษัทโดยตรง หรือมีอยู่กับบริษัททั้งที่เกิดจากการใช้ผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการ ติดต่อ เยี่ยมชม ค้นหา ผ่านช่องทางดิจิทัล สาขา เว็บไซต์ Call Center ผู้ที่ได้รับมอบหมาย หรือช่องทางอื่นใด 2.1.2 ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทได้รับหรือเข้าถึงได้จากแหล่งอื่นซึ่งไม่ใช่จากท่านโดยตรง เช่น หน่วยงานของรัฐ บริษัทในกลุ่มธุรกิจ และพันธมิตรทางธุรกิจ เป็นต้น ซึ่งบริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลจากแหล่งอื่นต่อเมื่อได้รับความยินยอมจากท่านตามที่กฎหมายกำหนด เว้นแต่บริษัทมีความจำเป็นตามกรณีที่กฎหมายอนุญาต ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผย เช่น - ข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อ นามสกุล อายุ วันเดือนปีเกิด สถานภาพสมรส เลขประจำตัวประชาชน เลขหนังสือเดินทาง - ข้อมูลการติดต่อ เช่น ที่อยู่อาศัย สถานที่ทำงาน หมายเลขโทรศัพท์ อีเมล ไอดีไลน์ - ข้อมูลอุปกรณ์หรือเครื่องมือ เช่น IP address MAC address Cookie ID - ข้อมูลอื่น ๆ เช่น การใช้งานเว็บไซต์ เสียง ภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว บันทึกการโต้ตอบและการสื่อสารระหว่างท่านกับบริษัท ไม่ว่าจะในรูปแบบหรือวิธีใด ๆ ก็ตาม รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง โทรศัพท์ อีเมล ข้อความสนทนา และการสื่อสารทางสื่อสังคมออนไลน์ (social media) และข้อมูลอื่นใดที่ถือว่าเป็นข้อมูลส่วนบุคคลภายใต้กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในกรณีที่บริษัท เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ก่อนวันที่ 1 มิถุนายน 2564 บริษัทจะดำเนินการกับข้อมูลดังกล่าวให้เป็นไปตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนดไว้ 2.2. “ข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว” หมายถึง ข้อมูลที่เป็นเรื่องส่วนบุคคลโดยแท้ของบุคคล แต่มีความละเอียดอ่อนและอาจสุ่มเสี่ยงในการเลือกปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรม เช่น เชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ หรือข้อมูลอื่นใด ซึ่งกระทบต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในทำนองเดียวกันตามที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลประกาศกำหนด 2.3. “การประมวลผล” หมายถึง การดำเนินการใด ๆ กับข้อมูลส่วนบุคคลไม่ว่าด้วยวิธีการอัตโนมัติหรือไม่ก็ตาม เช่น การเก็บรวบรวม การบันทึก การจัดระบบ การจัดเก็บ การปรับเปลี่ยนหรือการดัดแปลง การเรียกคืน การปรึกษา การใช้ การเปิดเผย (โดยการส่ง โอน การเผยแพร่หรือการทำให้สามารถเข้าถึงหรือพร้อมใช้งานโดยวิธีใด ๆ) การจัดเรียง การนำมารวมกัน การบล็อกหรือจำกัด การลบหรือการทำลาย 2.4. “เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง บุคคลธรรมดาซึ่งเป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่ข้อมูลส่วนบุคคลสามารถระบุตัวตนของบุคคลนั้นได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม 2.5. “ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งมีอำนาจหน้าที่ตัดสินใจเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล 2.6. “ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งดำเนินการเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามคำสั่งหรือในนามของบริษัท ทั้งนี้ บุคคลหรือนิติบุคคล ซึ่งดำเนินการดังกล่าวไม่เป็นผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล
3. การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ตามระยะเวลาที่จำเป็นในระหว่างที่ท่านเป็นลูกค้า หรือมีความสัมพันธ์อยู่กับบริษัทหรือตลอดระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องในนโยบายฉบับนี้ ซึ่งอาจจำเป็นต้องเก็บรักษาไว้ต่อไปภายหลังจากนั้นหากมีกฎหมายกำหนดหรืออนุญาตไว้ เช่น จัดเก็บไว้ตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน จัดเก็บไว้เพื่อวัตถุประสงค์ในการพิสูจน์ตรวจสอบกรณีอาจเกิดข้อพิพาทภายในอายุความตามที่กฎหมายกำหนดเป็นระยะเวลาไม่เกิน 10 ปี ทั้งนี้ บริษัทจะลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคล หรือทำให้เป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุถึงตัวตนของท่านได้เมื่อหมดความจำเป็นหรือสิ้นสุดระยะเวลาดังกล่าว โดยวัตถุประสงค์ในเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลของบริษัทดังต่อไปนี้ 3.1 ภาระหน้าที่ตามกฎหมายของบริษัท เนื่องจากบริษัทอยู่ภายใต้การกำกับดูแล และต้องดำเนินการตามกฎหมายและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง บริษัทจึงมีความจำเป็นจะต้องเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ต่าง ๆ เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายและกฎระเบียบของหน่วยงานรัฐ และ/หรือ หน่วยงานที่มีหน้าที่กำกับดูแลบริษัท ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้ 3.1.1 เพื่อปฏิบัติตามพรบ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และที่ได้แก้ไขเพิ่มเติม 3.1.2 เพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย (เช่น กฎหมายหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ กฎหมายป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน กฎหมายการป้องกันและปราบปรามการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้ายและการแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง และกฎหมายอื่นที่บริษัทต้องปฏิบัติตาม ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ) ซึ่งรวมถึงการดำเนินการตรวจสอบยืนยันตัวตน การตรวจสอบประวัติ การทำความรู้จักลูกค้า (Know Your Client) การตรวจสอบเพื่อทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับลูกค้า (Customer Due Diligence) และการตรวจสอบอื่น ๆ (รวมถึงการตรวจสอบจากฐานข้อมูลสาธารณะของหน่วยงานกำกับดูแล และ/หรือ ข้อมูลบุคคลที่ถูกกำหนด) และการดำเนินการอย่างต่อเนื่องเพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายใด ๆ ที่เกี่ยวข้อง และ/หรือ 3.1.3 เพื่อปฏิบัติตามกฎระเบียบและ/หรือคำสั่งของผู้มีอำนาจ (เช่น คำสั่งศาล คำสั่งของหน่วยงานรัฐ หน่วยงานที่มีหน้าที่กำกับดูแลบริษัท หรือพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจ) 3.1.4 บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้เป็นอย่างดีตามมาตรการเชิงเทคนิค (Technical Measure) และมาตรการเชิงบริหารจัดการ (Organizational Measure) เพื่อรักษาความมั่นคงปลอดภัยในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสม และเพื่อป้องกันการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล โดยบริษัทได้กำหนดนโยบาย ระเบียบ และหลักเกณฑ์ในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เช่น มาตรฐานความปลอดภัยของระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ และมาตรการเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้รับข้อมูลไปจากบริษัทใช้หรือเปิดเผยข้อมูลนอกวัตถุประสงค์ หรือโดยไม่มีอำนาจหรือโดยไม่ชอบ และบริษัทได้มีการปรับปรุงนโยบาย ระเบียบ และหลักเกณฑ์ดังกล่าวเป็นระยะ ๆ ตามความจำเป็นและเหมาะสม นอกจากนี้ ผู้บริหาร พนักงาน ลูกจ้าง ผู้รับจ้าง ตัวแทน ที่ปรึกษา และผู้รับข้อมูลจากบริษัทมีหน้าที่ต้องรักษาความลับข้อมูลส่วนบุคคลตามมาตรการรักษาความลับที่บริษัทกำหนดขึ้น 3.2 สัญญาที่ท่านได้ทำไว้กับบริษัท บริษัทจะเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปใช้ตามคำขอ และ/หรือ ข้อตกลงที่ท่านได้ทำไว้กับบริษัทซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้ 3.2.1 ดำเนินการตามคำขอของท่านก่อนการเข้าทำสัญญากับบริษัท การพิจารณาอนุมัติเกี่ยวกับการให้บริการผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการ และการส่งมอบผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการแก่ท่าน ซึ่งรวมถึงการดำเนินการใด ๆ ของบริษัท ซึ่งหากไม่ได้ดำเนินการแล้วจะกระทบต่อการดำเนินการหรือการให้บริการของบริษัท หรือจะไม่สามารถให้บริการได้อย่างเป็นธรรมและต่อเนื่อง 3.2.2 ให้บริการผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต แอพพลิเคชันบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ (mobile applications) และแพลตฟอร์มผลิตภัณฑ์ออนไลน์อื่น ๆ 3.2.3 ยืนยันตัวตน ติดตาม บันทึก หรือแจ้งเตือนการทำธุรกรรมของท่านผ่านช่องทางเว็บไซต์ของบริษัท 3.2.4 จัดทำรายงานต่าง ๆ (เช่น รายงานการทำธุรกรรมตามที่ท่านร้องขอ หรือรายงานภายในของบริษัท) 3.2.5 เรียกชำระหนี้ที่ท่านค้างชำระอยู่กับบริษัท 3.3 ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท บริษัทจะอ้างอิงฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย โดยคำนึงถึงประโยชน์ของบริษัทหรือของบุคคลอื่นกับสิทธิขั้นพื้นฐานในข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทจะเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้ 3.3.1 บริหารกิจการของบริษัท และบริษัทในกลุ่มธุรกิจทางการเงินของบริษัท (เช่น กำกับตรวจสอบ บริหารจัดการความเสี่ยง เฝ้าระวัง ป้องกัน และตรวจสอบการทุจริต การฟอกเงิน การก่อการร้าย การประพฤติโดยมิชอบ หรือการก่ออาชญากรรมอื่น ๆ ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงการตรวจสอบความน่าเชื่อถือของบุคคลใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับลูกค้าองค์กรธุรกิจของบริษัท) 3.3.2 บริหารจัดการความสัมพันธ์ระหว่างบริษัทและท่าน (เช่น ดูแลลูกค้า ประเมินความพึงพอใจ จัดการข้อร้องเรียน) 3.3.3 รักษาความปลอดภัย (เช่น บันทึกภาพ CCTV ลงทะเบียน แลกบัตร และ/หรือบันทึกภาพ ผู้ติดต่อก่อนเข้าอาคารของบริษัท ฯลฯ ) 3.3.4 ควบคุมการเข้าออกอาคาร และเพื่อทำให้มั่นใจว่าอาคารและพื้นที่ของบริษัท มีความปลอดภัยและความมั่นคงต่อบุคลากรของบริษัท และผู้มาติดต่อบริษัท รวมทั้งต่อทรัพย์สินและข้อมูลต่าง ๆ ที่ตั้งอยู่หรือจัดเก็บในอาคาร เพื่อเฝ้าสังเกตและตรวจตราการเข้าออกอาคาร สถานที่ที่มีการรักษาความปลอดภัย ห้องที่มีการป้องกัน โครงสร้างพื้นฐานเกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศหรือข้อมูลเชิงปฏิบัติการ และพื้นที่อื่น (รวมเรียกว่า “อาคารและพื้นที่”) ซึ่งเป็นการป้องกันการเข้าออกอาคารและพื้นที่ของบริษัท โดยไม่ได้รับอนุญาต และเพื่อป้องกัน ตรวจจับ และสืบสวนเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัย เช่น การเข้าออกอาคารและพื้นที่ของบริษัท โดยไม่ได้รับอนุญาต การโจรกรรม อัคคีภัย หรือการทำร้ายร่างกาย 3.3.5 พัฒนาและปรับปรุงผลิตภัณฑ์ บริการ และระบบงานต่าง ๆ ของบริษัท เพื่อยกระดับมาตรฐานการให้บริการของบริษัทและ/หรือเพื่อประโยชน์สูงสุดในการตอบสนองความต้องการของท่าน รวมทั้งวิจัยและวิเคราะห์ข้อมูล ตลอดจนนำเสนอผลิตภัณฑ์ และบริการ โดยคำนึงถึงสิทธิขั้นพื้นฐานในข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน 3.3.6 บันทึกภาพและ/หรือเสียงเกี่ยวกับการจัดประชุม อบรม สัมมนา สันทนาการ หรือกิจกรรมส่งเสริมการตลาด และ/หรือ 3.3.7 กรณีลูกค้าองค์กรธุรกิจของบริษัท บริษัทจะมีการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของกรรมการ ผู้มีอำนาจกระทำการแทน หรือตัวแทน 3.3.8 การบริหารความเสี่ยง การกำกับตรวจสอบ การบริหารจัดการภายในองค์กร รวมถึงการส่งต่อไปยังบริษัทในเครือกิจการเดียวกันเพื่อการดังกล่าว ภายใต้นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของเครือกิจการ (Binding Corporate Rules) 3.3.9 การทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้ (Anonymous Data) 3.3.10 การรับ-ส่งพัสดุ 3.3.11 การรับวางบิล-รับเช็ค 3.3.12 การป้องกัน รับมือ ลดความเสี่ยงที่อาจเกิดการกระทำการทุจริต ภัยคุกคามทางไซเบอร์ การผิดนัดชำระหนี้หรือผิดสัญญา การทำผิดกฎหมายต่าง ๆ (เช่น การฟอกเงิน การสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้ายและแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง ความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ ชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ หรือชื่อเสียง) ซึ่งรวมถึงการแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อยกระดับมาตรฐานการทำงานของบริษัทในเครือกิจการ/ธุรกิจเดียวกันในการป้องกัน รับมือ ลดความเสี่ยงข้างต้น 3.4 ความยินยอมของท่าน ในบางกรณี บริษัทอาจมีการขอความยินยอมจากท่านในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อให้ท่านได้รับประโยชน์สูงสุด และ/หรือ เพื่อให้บริษัทสามารถให้บริการที่ตอบสนองต่อความต้องการของท่าน ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้ 3.4.1 มีความจำเป็นต้องเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว (sensitive personal data) (เช่น ใช้ข้อมูลการจดจำลายนิ้วมือ (fingerprint) หรือภาพถ่ายบัตรประจำตัวประชาชนของท่าน (ซึ่งในบัตรดังกล่าวจะมีข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหวของท่าน ได้แก่ ศาสนา และ/หรือกรุ๊ปเลือดอยู่) ในการพิสูจน์และยืนยันตัวตนของท่านก่อนการทำธุรกรรม) 3.4.2 เก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลใด ๆ ของท่านไปวิจัยและวิเคราะห์เพื่อประโยชน์สูงสุดในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการที่ตอบสนองต่อความต้องการของท่านอย่างแท้จริง และ/หรือ ติดต่อท่านเพื่อเสนอผลิตภัณฑ์ บริการ และสิทธิประโยชน์ที่เหมาะสมแก่ท่านโดยเฉพาะ 3.4.3 ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศ ซึ่งอาจมีมาตรฐานในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่เพียงพอ (เว้นแต่เป็นกรณีที่พรบ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนดให้สามารถดำเนินการได้โดยไม่ต้องได้รับความยินยอม) และ/หรือ 3.4.4 กรณีท่านเป็นผู้เยาว์ คนไร้ความสามารถ คนเสมือนไร้ความสามารถ ซึ่งต้องได้รับความยินยอมจากบิดามารดา ผู้ปกครอง ผู้อนุบาล หรือผู้พิทักษ์ (แล้วแต่กรณี) (เว้นแต่เป็นกรณีที่พรบ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนดให้สามารถดำเนินการได้โดยไม่ต้องได้รับความยินยอม) 3.4.5 เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลใด ๆ ของท่าน ให้แก่บริษัทในกลุ่มธุรกิจทางการเงินของบริษัท และพันธมิตรทางธุรกิจที่เชื่อถือได้ของบริษัท เพื่อวัตถุประสงค์ดังนี้ (1) วิจัยและวิเคราะห์ข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลใด ๆ ของท่านเพื่อประโยชน์สูงสุดในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการที่ตอบสนองความต้องการของท่านอย่างแท้จริง และ (2) ติดต่อท่านเพื่อเสนอผลิตภัณฑ์ บริการ และสิทธิประโยชน์ที่เหมาะสมแก่ท่านโดยเฉพาะ 3.5 ฐานทางกฎหมายอื่น ๆ นอกเหนือไปจากฐานทางกฎหมายข้างต้น บริษัทอาจเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่ผู้อื่นภายใต้ความยินยอมของท่านหรือภายใต้หลักเกณฑ์ที่กฎหมายอนุญาตให้เปิดเผยได้ โดยบุคคลหรือหน่วยงานที่เป็นผู้รับข้อมูลดังกล่าวจะเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามขอบเขตที่ท่านได้ให้ความยินยอมหรือขอบเขตที่เกี่ยวข้องในนโยบายฉบับนี้ บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ต่าง ๆ เช่น เพื่อการให้บริการแก่ท่าน เพื่อการวิเคราะห์และพัฒนาปรับปรุงผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการ เพื่อการทำวิจัยหรือจัดทำข้อมูลทางสถิติ เพื่อการส่งเสริมการขายและการประชาสัมพันธ์ของบริษัทเพื่อการบริหารกิจการ เพื่อการป้องกันการทุจริต เพื่อให้ผู้อื่นให้บริการสนับสนุนแก่บริษัทเพื่อการพิสูจน์ตัวตนลูกค้า โดยบริษัทอาจเปิดเผยให้แก่บุคคลหรือหน่วยงานต่าง ๆ เช่น บริษัทในกลุ่มธุรกิจทางการเงิน ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล พันธมิตรทางธุรกิจที่ออกผลิตภัณฑ์ร่วมกัน (co-brand) ผู้ให้บริการภายนอก ตัวแทนของบริษัท ผู้รับจ้างช่วงงานต่อ ผู้สอบบัญชี ผู้ตรวจสอบภายนอก บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือ บริษัทบริหารสินทรัพย์ ผู้มีอำนาจตามกฎหมาย ผู้สนใจจะเข้ารับโอนสิทธิและ/หรือผู้รับโอนสิทธิในธุรกรรมหรือการควบรวมกิจการต่าง ๆ ของบริษัท นิติบุคคลหรือบุคคลใด ๆ ที่มีความสัมพันธ์หรือมีสัญญาอยู่กับบริษัท ซึ่งรวมตลอดถึง ผู้บริหาร พนักงาน ลูกจ้าง ผู้รับจ้าง ตัวแทน ที่ปรึกษาของบริษัทและของบุคคลหรือหน่วยงานที่เป็นผู้รับข้อมูลดังกล่าว กรณีเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้บุคคลอื่นเพื่อวัตถุประสงค์ทางการตลาดของผู้รับข้อมูล เช่น เพื่อการส่งเสริมการขาย การประชาสัมพันธ์ หรือการเสนอผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการจากผู้รับข้อมูลให้แก่ท่าน บริษัทจะแจ้งรายชื่อผู้รับข้อมูลให้ท่านทราบเพื่อประกอบการตัดสินใจให้ความยินยอม 3.5.1 จัดทำเอกสารประวัติศาสตร์หรือจดหมายเหตุเพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือที่เกี่ยวกับการศึกษาวิจัยหรือสถิติ 3.5.2 ป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล 3.5.3 เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติหน้าที่ในการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะหรือเพื่อการใช้อำนาจของพนักงานเจ้าหน้าที่
4. วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมหรือใช้ข้อมูลส่วนบุคคล 4.1. บริษัทจะดำเนินการเก็บรวมรวมหรือใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลเพื่อประโยชน์ในการดำเนินงานของบริษัท หรือเพื่อปรับปรุงคุณภาพในการปฏิบัติงานให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และ/หรือเพื่อปฏิบัติตามกฎหมายหรือกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องต่อการดำเนินงานของบริษัท โดยบริษัทจะจัดเก็บและใช้ข้อมูลดังกล่าวตามระยะเวลาเท่าที่จำเป็นตามวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งเจ้าของข้อมูลหรือตามที่กฎหมายกำหนดไว้เท่านั้น 4.2. บริษัทจะไม่กระทำการใด ๆ แตกต่างจากที่ระบุในวัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวม เว้นแต่ (1) ได้แจ้งวัตถุประสงค์ใหม่ให้แก่เจ้าของข้อมูลทราบและได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูล (2) เป็นการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลหรือกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง
5. แหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคล โดยทั่วไปแล้วบริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจากท่านโดยตรง แต่ในบางกรณีบริษัทอาจได้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมาจากแหล่งอื่น ซึ่งบริษัทจะดำเนินการให้เป็นไปตามที่ พรบ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวมจากแหล่งอื่น อาจรวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะข้อมูลดังต่อไปนี้ 5.1 ข้อมูลที่บริษัทได้รับจากบริษัทในกลุ่มธุรกิจทางการเงินของบริษัท พันธมิตรทางธุรกิจ และ/หรือ บุคคลอื่นใดที่บริษัทมีนิติสัมพันธ์ด้วย 5.2 ข้อมูลที่บริษัทได้รับจากบุคคลที่มีความเกี่ยวเนื่องกับท่าน (เช่น ครอบครัวของท่าน เพื่อน ผู้แนะนำ) 5.3 ข้อมูลที่บริษัทได้รับจากลูกค้าองค์กรธุรกิจ ในฐานะที่ท่านเป็นกรรมการ ผู้มีอำนาจกระทำการแทน ตัวแทน ผู้ที่ได้รับมอบหมาย หรือผู้ติดต่อ 5.4 ข้อมูลที่บริษัทได้รับจากหน่วยงานราชการ หน่วยงานที่มีหน้าที่กำกับดูแลบริษัท บริษัทข้อมูลเครดิต และ/หรือ ผู้ให้บริการภายนอก (เช่น ข้อมูลที่เปิดเผยต่อสาธารณะ) 5.5 ข้อมูลทางเทคนิคบางอย่างเกี่ยวกับอุปกรณ์ กิจกรรมและรูปแบบการเข้าชม ข้อมูลประวัติการใช้งานเว็บไซต์ (Browsing) ของท่านโดยอัตโนมัติโดยใช้คุกกี้ (Cookies) และเทคโนโลยีอื่น ๆ ที่คล้ายคลึงกัน
6. สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลสิทธิของท่านในข้อนี้เป็นสิทธิตามกฎหมายที่ท่านควรทราบ โดยท่านสามารถขอใช้สิทธิต่าง ๆ ได้ภายใต้ข้อกำหนดของกฎหมาย และนโยบายที่กำหนดไว้ในขณะนี้หรือที่จะมีการแก้ไขเพิ่มเติมในอนาคต ตลอดจนหลักเกณฑ์ตามที่บริษัทกำหนดขึ้น และในกรณีท่านมีอายุไม่ครบ 20 ปีบริบูรณ์ หรือถูกจำกัดความสามารถในการทำนิติกรรมตามกฎหมาย ท่านสามารถขอใช้สิทธิโดยให้บิดาและมารดา ผู้ใช้อำนาจปกครอง หรือมีผู้อำนาจกระทำการแทนเป็นผู้แจ้งความประสงค์ ซึ่งมีรายละเอียดดังต่อไปนี้ 6.1 สิทธิในการเข้าถึงและขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิเข้าถึงและได้รับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทมีอยู่ เว้นแต่กรณีที่บริษัทมีสิทธิปฏิเสธคำขอของท่านตามกฎหมายหรือคำสั่งศาล หรือกรณีที่คำขอของท่านจะมีผลกระทบที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่น 6.2 สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิขอให้บริษัททำการแก้ไข หรือปรับปรุงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ไม่ถูกต้องหรือไม่ครบถ้วน เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด 6.3 สิทธิในการขอให้ลบข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทลบหรือทำลายข้อมูลของท่าน หรือทำให้ข้อมูลของท่านเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนของท่านได้ เว้นแต่กรณีที่บริษัทจะมีเหตุอันชอบด้วยกฎหมายในการปฏิเสธคำขอของท่าน หรือเห็นว่าบริษัทหมดความจำเป็นในการเก็บรักษาไว้ตามวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องในนโยบายฉบับนี้ หรือเมื่อท่านได้ใช้สิทธิขอถอนความยินยอมหรือใช้สิทธิขอคัดค้านตามที่แจ้งไว้ข้างต้นแล้ว 6.4 สิทธิในการขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในบางกรณี (เช่น บริษัทอยู่ระหว่างการตรวจสอบคำขอใช้สิทธิแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลหรือคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือท่านขอให้บริษัทระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลแทนการลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่มีความจำเป็นอีกต่อไป เนื่องจากท่านมีความจำเป็นต้องขอให้บริษัทเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้เพื่อใช้ในการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย) 6.5 สิทธิในการคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีที่บริษัทดำเนินการภายใต้ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย หรือเพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการตลาดแบบตรงหรือการศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ประวัติศาสตร์ หรือสถิติ เว้นแต่กรณีที่บริษัทมีเหตุในการปฏิเสธคำขอของท่านโดยชอบด้วยกฎหมาย (เช่น บริษัทสามารถแสดงให้เห็นว่าการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมีเหตุอันชอบด้วยกฎหมายยิ่งกว่า หรือเพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องทางกฎหมาย หรือเพื่อประโยชน์สาธารณะของบริษัท) หากท่านยื่นคัดค้าน บริษัทจะยังคงดำเนินการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อไปเฉพาะที่บริษัทสามารถแสดงเหตุผลตามกฎหมายได้ว่ามีความสำคัญยิ่งกว่าสิทธิขั้นพื้นฐานของท่าน หรือเป็นไปเพื่อการยืนยันสิทธิตามกฎหมาย การปฏิบัติตามกฎหมาย หรือการต่อสู้ในการฟ้องร้องตามกฎหมาย ตามแต่ละกรณี 6.6 สิทธิในการขอรับหรือขอให้ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีที่บริษัทสามารถทำให้ข้อมูลนั้นอยู่ในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานได้โดยทั่วไปด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติและสามารถใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ รวมทั้งมีสิทธิขอให้บริษัทส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังบุคคลภายนอก หรือขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทได้ส่งหรือโอนไปยังบุคคลภายนอก เว้นแต่บริษัทไม่สามารถทำได้โดยสภาพทางเทคนิค หรือบริษัทมีเหตุในการปฏิเสธคำขอของท่านโดยชอบด้วยกฎหมาย 6.7 สิทธิในการขอถอนความยินยอม ท่านมีสิทธิขอถอนความยินยอมที่ท่านได้ให้ไว้กับบริษัทเมื่อใดก็ได้ ตามขั้นตอนและวิธีการที่บริษัทกำหนด เว้นแต่โดยสภาพไม่สามารถถอนความยินยอมได้ ทั้งนี้ การถอนความยินยอมของท่านจะไม่ส่งผลกระทบต่อการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ได้ให้ความยินยอมไปแล้วโดยชอบ ก่อนการถอนความยินยอมดังกล่าว ทั้งนี้ การถอนความยินยอมของท่านอาจส่งผลกระทบต่อท่านจากการใช้ผลิตภัณฑ์ และ/หรือบริการต่าง ๆ เช่น ท่านจะไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ โปรโมชั่นหรือข้อเสนอใหม่ๆ ไม่ได้รับผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ดียิ่งขึ้นและสอดคล้องกับความต้องการของท่าน หรือไม่ได้รับข้อมูลข่าวสารอันเป็นประโยชน์แก่ท่าน เป็นต้น เพื่อประโยชน์ของท่าน จึงควรศึกษาและสอบถามถึงผลกระทบก่อนเพิกถอนความยินยอม 6.8 สิทธิในการร้องเรียน ท่านมีสิทธิร้องเรียนต่อคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลหรือสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หากบริษัทกระทำการอันเป็นการไม่ปฏิบัติตามพรบ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล 6.9 การใช้สิทธิของท่านดังกล่าวข้างต้นอาจถูกจำกัดภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง และมีบางกรณีที่มีเหตุจำเป็นที่บริษัทอาจปฏิเสธหรือไม่สามารถดำเนินการตามคำขอใช้สิทธิข้างต้นของท่านได้ เช่น ต้องปฏิบัติตามกฎหมายหรือคำสั่งศาล เพื่อประโยชน์สาธารณะ การใช้สิทธิอาจละเมิดสิทธิหรือเสรีภาพของบุคคลอื่น เป็นต้น หากบริษัทปฏิเสธ คำขอข้างต้น บริษัทจะแจ้งเหตุผลของการปฏิเสธให้ท่านทราบด้วย ท่านสามารถขอใช้สิทธิดังกล่าวข้างต้นได้ โดยยื่นคำร้องขอใช้สิทธิต่อบริษัทเป็นลายลักษณ์อักษรหรือผ่านทางจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ตามแบบฟอร์มที่บริษัทกำหนด ผ่าน "ช่องทางการติดต่อของบริษัท" ด้านล่าง โดยบริษัทจะพิจารณาและแจ้งผลการพิจารณาตามคำร้องฯ ของเจ้าของข้อมูล นับแต่วันที่ได้รับคำร้องฯ ขอและเอกสารประกอบครบถ้วน ทั้งนี้ บริษัทอาจปฏิเสธสิทธิของเจ้าของข้อมูลได้ในกรณีที่มีกฎหมายกำหนด
7. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลบริษัทจะไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลไปให้บุคคลใดโดยปราศจากความยินยอมและจะเปิดเผยตามวัตถุประสงค์ที่ได้มีการแจ้งไว้อย่างไรก็ดี เพื่อให้เป็นประโยชน์ต่อการดำเนินงานของบริษัทและการให้บริการแก่เจ้าของข้อมูล บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อบุคคลหรือองค์กรดังต่อไปนี้ ภายใต้หลักเกณฑ์ของพรบ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล 7.1 บริษัทในเครือหรือบริษัทในกลุ่มธุรกิจของบริษัท พันธมิตรทางธุรกิจ และ/หรือ บุคคลอื่นใดที่บริษัทมี นิติสัมพันธ์ด้วย รวมถึงกรรมการ ผู้บริหาร พนักงาน ลูกจ้าง ผู้รับจ้าง ตัวแทน ที่ปรึกษาของบริษัทและ/หรือ ของบุคคลดังกล่าว 7.2 หน่วยงานราชการ หน่วยงานภาครัฐ หน่วยงานของรัฐ และ/หรือ หน่วยงานที่มีหน้าที่กำกับดูแลบริษัท (เช่น ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม สำนักงานคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย กรมการปกครอง กรมสรรพากร กรมพัฒนาธุรกิจการค้า และกรมทรัพย์สินทางปัญญา) 7.3 คู่ค้า ตัวแทน หรือองค์กรอื่น (เช่น สมาคมวิชาชีพที่บริษัทเป็นสมาชิก ผู้ตรวจสอบบัญชีอิสระ ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ คลังเก็บเอกสาร และสำนักหักบัญชี) ซึ่งการเปิดเผยข้อมูลบุคคลส่วนบุคคลของท่านจะมีวัตถุประสงค์โดยเฉพาะเจาะจง ภายใต้ฐานทางกฎหมาย และมาตรการความปลอดภัยที่เหมาะสม 7.4 บุคคลที่เกี่ยวข้องในกรณีการขายสิทธิเรียกร้อง และ/หรือ ทรัพย์สิน การปรับโครงสร้างองค์กร หรือการควบรวมกิจการของบริษัท ซึ่งบริษัทอาจต้องมีการโอนสิทธิไปยังกิจการดังกล่าว รวมถึงบุคคลต่าง ๆ ที่บริษัทจำเป็นต้องแบ่งปันข้อมูลเพื่อการขายสิทธิเรียกร้องและ/หรือทรัพย์สิน การปรับโครงสร้างองค์กร การโอนกิจการ ข้อตกลงทางการเงิน การจำหน่ายทรัพย์สิน หรือธุรกรรมอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับกิจการ และ/หรือ ทรัพย์สินที่ใช้ในการดำเนินกิจการของบริษัท 7.5 หน่วยงานที่ร้องขอให้เปิดเผยข้อมูลโดยอาศัยอำนาจตามกฎหมาย อาทิ การร้องขอข้อมูลเพื่อการฟ้องร้องหรือดำเนินคดีตามกฎหมาย หรือที่มีความเกี่ยวข้องกับกระบวนการทางกฎหมาย เช่น สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมสอบสวนคดีพิเศษ สำนักงานอัยการสูงสุด และศาล 7.6 บุคคลภายนอกที่ให้บริการต่าง ๆ แก่บริษัท (เช่น การวิเคราะห์และการเปรียบเทียบทางการตลาด ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงตัวแทนบริษัทต่างประเทศ (correspondent banking) ตัวแทน หรือผู้รับเหมาช่วงที่กระทำการแทนบริษัท 7.7 ผู้ให้บริการด้านสื่อสังคมออนไลน์ (ในรูปแบบที่ปลอดภัย) หรือบริษัทโฆษณาภายนอก เพื่อแสดงข้อความให้แก่ท่าน และบุคคลอื่นใดเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัท โดยบริษัทโฆษณาภายนอกอาจใช้ข้อมูลประวัติกิจกรรมออนไลน์ของท่าน เพื่อจัดสรรการโฆษณาที่ท่านอาจสนใจ 7.8 ผู้ให้หลักประกันที่เป็นบุคคลภายนอก 7.9 บุคคลอื่นใดที่ให้ผลประโยชน์หรือให้บริการที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์หรือบริการของท่าน และ/หรือ 7.10 ผู้รับมอบอำนาจ ผู้รับมอบอำนาจช่วง ตัวแทน หรือผู้แทนโดยชอบธรรมของท่านที่มีอำนาจตามกฎหมายโดยชอบ
8. ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในระหว่างที่ท่านเป็นลูกค้าของบริษัท และเมื่อท่านสิ้นสุดความสัมพันธ์กับบริษัท หรือนับแต่การทำธุรกรรมกับบริษัท หรือกรณีบริษัทปฏิเสธคำขอใช้บริการของท่าน หรือท่านขอยกเลิกการใช้บริการของบริษัท บริษัทจะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามระยะเวลาที่เหมาะสมและจำเป็นสำหรับข้อมูลส่วนบุคคลแต่ละประเภทและวัตถุประสงค์ตามที่พรบ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด และจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามอายุความ หรือระยะเวลาที่กฎหมายที่เกี่ยวข้องกำหนด (เช่น กฎหมายหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ กฎหมายป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน กฎหมายการป้องกันและปราบปรามการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้ายและการแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง กฎหมายการบัญชี กฎหมายภาษีอากร กฎหมายแรงงาน และกฎหมายอื่นที่บริษัทต้องปฏิบัติตาม ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ) นอกจากนี้ บริษัทอาจจะจำเป็นต้องเก็บบันทึกข้อมูลจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดที่สำนักงานใหญ่ สาขา เพื่อป้องกันเหตุทุจริตและการรักษาความปลอดภัย รวมถึงตรวจสอบธุรกรรมต้องสงสัยที่ท่านหรือบุคคลที่เกี่ยวข้องอาจแจ้งมายังบริษัท หลังจากระยะเวลาดังกล่าว บริษัทอาจทำลายข้อมูลส่วนบุคคลเช่นว่านั้นจากการจัดเก็บหรือระบบ โดยไม่มีการแจ้งให้ท่านทราบล่วงหน้า
9. การใช้คุกกี้ บริษัทอาจเก็บรวบรวมและใช้คุกกี้และเทคโนโลยีในลักษณะเดียวกัน เมื่อท่านใช้ผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการของบริษัทรวมถึงการใช้เว็บไซต์ การทำธุรกรรมทางการเงินผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต และเว็บไซต์ของบริษัท การเก็บรวบรวมคุกกี้และเทคโนโลยีในลักษณะเดียวกันดังกล่าวจะช่วยให้บริษัทสามารถจดจำท่าน ทราบถึงความชื่นชอบของท่าน และปรับปรุงวิธีการที่บริษัทจะเสนอผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการให้แก่ท่าน บริษัทอาจใช้คุกกี้เพื่อวัตถุประสงค์ต่าง ๆ (เช่น ให้ฟังก์ชันพื้นฐานสามารถทำงานได้ ช่วยให้บริษัทเข้าใจวิธีการที่ท่านใช้งานเว็บไซต์ของบริษัทหรืออีเมล ช่วยให้บริษัทสามารถมอบประสบการณ์ผ่านช่องทางออนไลน์หรือการติดต่อสื่อสารกับท่านได้ดียิ่งขึ้น และเพื่อให้มั่นใจว่าสื่อโฆษณาออนไลน์ที่ได้แสดงแก่ท่านมีความเกี่ยวข้องและเป็นสิ่งที่ท่านสนใจยิ่งขึ้น)
10. การใช้ข้อมูลส่วนบุคคลตามวัตถุประสงค์เดิม บริษัทมีสิทธิในการเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทได้เก็บรวบรวมไว้ก่อนวันที่พรบ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการเก็บรวบรวม การใช้ และการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลมีผลใช้บังคับต่อไปตามวัตถุประสงค์เดิม หากท่านไม่ประสงค์ที่จะให้บริษัทเก็บรวมรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวต่อไป ท่านสามารถแจ้งบริษัทเพื่อขอถอนความยินยอมของท่านเมื่อใดก็ได้
11. การรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล 11.1. บริษัทจะจัดให้มีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเหมาะสมและสอดคล้องกับกฎหมาย นโยบาย ระเบียบ ข้อกำหนด และแนวปฏิบัติด้านการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่พนักงานของบริษัทและบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้อง 11.2. บริษัทสนับสนุนและส่งเสริมให้พนักงานมีความรู้และตระหนักถึงหน้าที่และความรับผิดชอบในการเก็บรวบรวม การจัดเก็บรักษา การใช้ และการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลเพื่อให้บริษัทสามารถปฏิบัติตามนโยบายและกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลได้อย่างถูกต้องและ มีประสิทธิภาพ
12. การเชื่อมโยงไปยังเว็บไซต์ ผลิตภัณฑ์และบริการของบุคคลภายนอก การให้บริการของบริษัท อาจมีลิงก์เชื่อมโยงไปยังเว็บไซต์ แอพพลิเคชั่น ผลิตภัณฑ์ และบริการของบุคคลภายนอก ซึ่งบุคคลภายนอกเหล่านั้นอาจเก็บรวบรวมข้อมูลบางอย่างเกี่ยวกับการใช้บริการของท่าน คำประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวนี้ใช้เฉพาะสำหรับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลภายใต้วัตถุประสงค์ที่กำหนดโดยบริษัทเท่านั้น บริษัทไม่สามารถรับผิดชอบในความปลอดภัยหรือความเป็นส่วนตัวของข้อมูลใด ๆ ของท่านที่ถูกเก็บรวบรวมโดยเว็บไซต์ แอพพลิเคชั่น ผลิตภัณฑ์ หรือบริการของบุคคลภายนอกดังกล่าว แม้ว่าท่านจะกดลิงก์เชื่อมโยงที่ปรากฏบนการให้บริการของบริษัทก็ตาม ทั้งนี้ ท่านควรใช้ความระมัดระวังและตรวจสอบคำประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว/นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของเว็บไซต์ แอพพลิเคชั่น ผลิตภัณฑ์ และบริการของบุคคลภายนอกเหล่านั้นด้วย
13. การทบทวนและเปลี่ยนแปลงนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลบริษัทอาจทำการปรับปรุงหรือแก้ไขนโยบายฉบับนี้เป็นครั้งคราวเพื่อให้สอดคล้องกับข้อกำหนดตามกฎหมาย การเปลี่ยนแปลงการดำเนินงานของบริษัท รวมถึงข้อเสนอแนะและความคิดเห็นจากหน่วยงานต่าง ๆ โดยบริษัทจะประกาศแจ้งการเปลี่ยนแปลงให้ทราบอย่างชัดเจน
14. ช่องทางการติดต่อบริษัท หากท่านมีข้อสงสัย หรือต้องการสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัวของบริษัท หรือต้องการขอใช้สิทธิของท่าน ท่านสามารถติดต่อบริษัทได้ตามช่องทางดังนี้ 14.1 ทางโทรศัพท์ +66(0)2-016-6666 14.2 หรือทางอีเมล info@sgb.co.th หรือ dpo@sgb.co.th โดยติดต่อที่เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล 14.3 หรือส่งไปรษณีย์มาที่สำนักงานใหญ่ของบริษัท เลขที่ 253/1038 ซอยเคหะร่มเกล้า 64 แขวงคลองสองต้นนุ่น เขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร 10520 14.4 หรือติดต่อที่ฝ่ายกำกับดูแลการปฏิบัติตามกฎระเบียบ แผนกคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เลขที่ 85,87 ซ.อ่อนนุช 64 ถ.สุขุมวิท 77 แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง กรุงเทพมหานคร 10250
15. การเปลี่ยนแปลงประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัว บริษัท ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลง หรือแก้ไขเพิ่มเติมประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้เป็นครั้งคราว เพื่อให้สอดคล้องกับข้อกำหนดตามกฎหมาย การเปลี่ยนแปลงการดำเนินงานของบริษัท รวมถึงข้อเสนอแนะและความคิดเห็นจากหน่วยงานต่าง ๆ